เริ่มหงุดหงิดกับแขกที่ไม่ได้เชิญ แต่เผอิญเป็นเพื่อนลูก มากันทีเป็นรถตู้ ทั้งลูกเล็ก2คน(ดีที่ไม่มีเด็กแดง) /แฟนเพื่อนลูกอีก 2คู่ ที่บ้านมี3ห้องนอนยังไม่พอ ต้องให้นอนที่ห้องรับแขก แอร์4ตัว เปิดกระหน่ำตั้งแต่เที่ยงวัน ยัน2 ทุ่ม ได้พักก็ตอนพวกเขาออกไปเที่ยวกัน (โดยทิ้งลูกไว้ให้เราดูให้) กลับมาตอนตี1ตี2 หลับยาวมาตื่นอีกทีใกล้เที่ยงวัน ตื่นมาก็แข่งกันสูบบุหรี่ บ้านช่องสกปรก ฯลฯ ชีวิตเราอยู่กันสงบๆสองคนตายาย กลายเป็นต้องมาวุ่นวายไม่เป็นส่วนตัว มากันตั้งแต่วันที่14 กะอยู่ถึง 17เมษา เพื่อหลบรถที่เข้ากรุงเทพเลยกระซิบบอกลูกชายว่าวันหลังอย่างนี้ไม่เอานะปีหน้าไม่ต้องพาใครมา บ้านเราไม่ใช่โรงแรม และที่สำคัญเราไม่มีคนรับใช้ ทุกอย่างแม่ต้องทำหมด
ที่บ่นมานี่ แค่ให้หายเครียดบ้าง เพราะวัยรุ่นสมัยนี้ไม่รู้จักคำว่าเกรงใจ แต่ละคนทำตัวเหมือนอยู่โรงแรม เพื่อนลูกและผู้หญิงที่มาด้วยเรายังเห็นหน้าไม่ชัดเลย เพราะถ้าไม่นอนยาวก็ลุกขึ้นมาแต่งตัวออกไปเล่นน้ำ กลับมาถอดเสื้อผ้าเปียกกองเป็นหย่อมๆแล้วแต่งตัวเตรียมออกไปเที่ยวกลางคืนต่อ
ขอคำแนะนำส่งท้ายหน่อยเถอะค่ะ ว่าจะทำอย่างไร จะบอกพวกเขาอย่างไรไม่ให้เสียน้ำใจ ที่สำคัญคือเราเกรงใจลูก ลูกเกรงใจเพื่อน ...ตั้งใจว่าก่อนพวกเขากลับจะบอกตรงๆเลยว่าให่ช่วยทำความสะอาดบ้านก่อน ทั้งห้องน้ำห้องท่า ผ้าปูที่นอนต้องเอาออกมาซักให้เรียบร้อย เพราะทิ้งไว้ให้แม่ทำไม่ไหวหรอก...อย่างนี้ดีมั้ยคะ
ทำอย่างไรเมื่อแขกเต็มบ้านช่วงสงกรานต์
ที่บ่นมานี่ แค่ให้หายเครียดบ้าง เพราะวัยรุ่นสมัยนี้ไม่รู้จักคำว่าเกรงใจ แต่ละคนทำตัวเหมือนอยู่โรงแรม เพื่อนลูกและผู้หญิงที่มาด้วยเรายังเห็นหน้าไม่ชัดเลย เพราะถ้าไม่นอนยาวก็ลุกขึ้นมาแต่งตัวออกไปเล่นน้ำ กลับมาถอดเสื้อผ้าเปียกกองเป็นหย่อมๆแล้วแต่งตัวเตรียมออกไปเที่ยวกลางคืนต่อ
ขอคำแนะนำส่งท้ายหน่อยเถอะค่ะ ว่าจะทำอย่างไร จะบอกพวกเขาอย่างไรไม่ให้เสียน้ำใจ ที่สำคัญคือเราเกรงใจลูก ลูกเกรงใจเพื่อน ...ตั้งใจว่าก่อนพวกเขากลับจะบอกตรงๆเลยว่าให่ช่วยทำความสะอาดบ้านก่อน ทั้งห้องน้ำห้องท่า ผ้าปูที่นอนต้องเอาออกมาซักให้เรียบร้อย เพราะทิ้งไว้ให้แม่ทำไม่ไหวหรอก...อย่างนี้ดีมั้ยคะ